การร่วงของผมเป็นเรื่องที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน จากประวัติศาสตร์ก็น่าจะเริ่มตั้งแต่เมื่อ 3000 ปีก่อนคริสตศักราช จากหลักฐานพบว่ามีความนิยมวิกหรือแฮร์พีชในจักรวรรดิอัสซีเรีย จักวรรดิซูเมอร์ เปอร์เซียน กรีก เป็นต้น จากนั้นเมื่อเวลาผ่านมาถึงปี ค.ศ. 1950 ก็ได้เริ่มมีการแบ่งชนิดของปัญหาศีรษะล้าน-เถิก จนมาถึงในปี ค.ศ.1975 ได้มีการแบ่งปัญหาศีรษะล้าน-เถิกออกเป็น 7 ระดับที่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบัน มีชื่อว่า “Norwood-Hamilton classification”

อาการล้าน-เถิก 7 ระดับ

Norwood-Hamilton classification มี 7 ระดับ โดยแต่ละระดับบ่งบอกถึงรูปแบบ และความรุนแรงของการสูญเสียเส้นผม

ระดับที่ 1 ไม่มีการหลุดร่วงของเส้นผมอย่างมีนัยสำคัญ หรือการถดถอยของแนวเส้นผม ถือว่าไม่มีปัญหา ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา

ระดับที่ 2 จะเริ่มมีการถอยร่นของแนวเส้นผม ทำให้หน้าผากเริ่มดูเถิกสูงและดูมีอายุขึ้น บางครั้งอาจสังเกตได้จากการทักจากคนรอบข้างว่าหน้าดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เป็นจุดแรกที่ควรตระหนักถึงอาการผมร่วงของเรา

ระดับที่ 3 เป็นสัญญาณแรกของอาการศีรษะล้าน-เถิกทางการแพทย์ แนวผมจะยิ่งถอยร่นในรูปแปป M C U โดยที่บริเวณที่ถอยร่นไปแล้วนั้นอาจจะไม่มีผมเลย หรือมีผมเล็กน้อย แต่สำหรับบางคนแนวผมอาจจะไม่ได้ถอยร่น แต่บริเวณที่ผมร่วงจนบางจะเป็นบริเวณกลางศีรษะ ในระดับที่ 3 ถือเป็นระดับที่สำคัญมาก ๆ เพราะอาการผมหลุดร่วงของเราจะดำเนินไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป อันเป็นผลมากจากฮอร์โมน DHT นั่นเอง ควรเริ่มเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อเริ่มต้นการรักษาอย่างจริงจัง

ระดับที่ 4 แนวผมจะยิ่งถอยร่นลึกเข้าไปกว่าเดิม ในคนที่มีอาการผมบาง อาจจะเริ่มเป็นไข่ดาวมากขึ้น โดยระดับที่ 4 คือระดับสุดท้ายที่จะสามารถรักษาเพื่อให้กลับไปดูดีได้อีกครั้ง โดยขึ้นตอนการรักษาสำหรับล้าน-เถิกก็จะเป็นการปลูกผมย้ายรากแบบ FUE DHI หรือ Long Hair DHI นั่นเอง เนื่องจากผมด้านหลังเรามีจำนวนจำกัด ทำให้ไม่สามารถนำมารักษาบริเวณด้านบนที่เป็นหัวไข่ดาวได้ทั้งหมดถ้าพื้นที่ปัญหากว้าง จึงนิยมทำการรักษาด้วย ReCell Micro Hair Transplant นั่นเอง เพื่อที่จะทำให้ผมบริเวณด้านบนหนังศีรษะเกิดการงอกใหม่อีกครั้งหนึ่ง หากมีอาการล้าน-เถิก และหัวไข่ดาว หมอแนะนำให้ทำควบคู่กันไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ

ระดับที่ 5 แนวผมจะยิ่งถอยร่นลงไปกว่าเดิม บริเวณล้าน-เถิกด้านหน้า กับผมบางกลางศีรษะจะเริ่มใกล้กันมากขึ้น หากมีอาการในระดับที่ 5 แล้ว การปลูกผมเพื่อให้ได้กรอบหน้าเดิมถือว่าเป็นไปได้ยาก เพราะต้องใช้ผมจำนวนมาก แต่ผมบริเวณด้านหลังเรามีจำกัด ดังนั้นโดยทั่วไปจะมีการร่วมมือออกแบบเพื่อหาความลงตัว ระหว่างแพทย์และตัวคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้และพึงพอใจครับ

ระดับที่ 6 แนวผมล้าน-เถิกด้านหน้าเชื่อมต่อกับบริเวณกลางศีรษะอย่างสมบูรณ์ บริเวณที่ล้าน-เถิกอาจจะไม่เหลือผมเลย หรือเหลือน้อยเต็มที โดยระดับนี้ถือว่ายากต่อการแก้ไข อาจจะต้องมีการใช้กรรมวิธีที่หลากหลายในการรักษาปัญหาให้ออกมาดีเท่าที่ผมที่มีจะอำนวยครับ

ระดับที่ 7 ขุนช้างเลยครับ สำหรับระดับนี้ หรือก็คือจะเหลือผมแค่บริเวณท้ายทอย(บริเวณนี้แข็งแรงที่สุด บริเวณเดียวกับที่นำไปย้ายรากครับ)

MG ตัวช่วยหลังปลูกผม

สำหรับหลาย ๆ ท่านที่ปลูกผมไปแล้ว แต่ยังคงกังวลเรื่องผมจะร่วงเพิ่ม หมอต้องขออธิบายว่าผมที่ปลูกใหม่เป็นผมที่แข็งแรงหลุดร่วงยากอยู่แล้ว แต่ผมที่จะร่วงโดยมากเป็นผมเดิมของเราครับ ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ดังนั้นหมออยากแนะนำ MG ครับ เพราะ MG เป็นการฉีดสารอาหารจกธรรมชาติเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม และลดผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ได้อีกด้วยนะครับ ที่สำคัญราคาไม่สูงครับ